นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ผู้นำความคึกคักรูปแบบใหม่ๆกลับมาสู่ธุรกิจโรงแรมอีกครั้ง
GROUP DIRECTOR
คุณ ภูมิภัทร นาวานุเคราะห์
เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพ หรือ ภูเก็ต CAPE & KANTARY HOTELS ได้เปิดให้บริการทั้งหมด 23 แห่ง 3,741 ห้องทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นแบรนด์โรงแรมดัง ของไทยที่ติด 1 ใน Top Five โรงแรมระดับประเทศ โดยวันนี้เราได้มีโอกาสมาสัมภาษณ์คุณภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ที่เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จนี้
ตอนแรกนั้น เคยอยู่ภายใต้แบรนด์ Sheraton มาก่อน
หลังสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ ผมก็เริ่มทำงานในสายงานการโรงแรม และเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก็ได้ถือกำเนิดโรงแรม Cape Panwa Sheraton ซึ่งเป็นโรงแรมของเครือ Sheraton แห่งแรกในภูเก็ต และในปี 1991 เราก็ได้แยกตัวออกมาบริหารโรงแรมด้วยตัวเองภายใต้ชื่อ Cape Panwa Hotel และเป็นจุดเริ่มต้นของ CAPE & KANTARY HOTELS ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น 3 แบรนด์ย่อย ได้แก่ Cape Kantary และ Kameo
จุดเด่นของทั้ง 3 แบรนด์
แบรนด์ Cape เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว บนทำเลที่เรียกได้ว่าสวยที่สุดในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้านักท่องเที่ยวตลาดบน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ห้องพักแบบสวีทของ Cape Panwa Hotel บนเกาะภูเก็ตที่มีถึง 2 ชั้น พร้อมทั้งสระว่ายน้ำ และสปาส่วนตัว บนเนื้อที่ใช้สอยกว่า 530 ตารางเมตร ซึ่งได้รับความนิยมจากดาราและคนดังทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งราชวงศ์ของไทยด้วย
แบรนด์ที่สอง Kantary จะเน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางชานเมือง ซึ่งอยู่ใกล้เขตุอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 10 แห่ง เป็น Business Hotel ระดับ 4 ดาวขึ้นไป ด้วยเหตุนี้แบรนด์ Kantary จึงเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น
ส่วนแบรนด์สุดท้าย Kameo นั้นจะเจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกับทาง Kantary แต่จะมีราคาที่ย่อมเยากว่า และในอนาคตนี้เราก็วางแผนจะทำการรีแบรนด์ใหม่ โดยนำ Kameo ไปรวมกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง Kantary เพื่อกำเนิดแบรนด์ใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
มีการพัฒนาแบรนด์ที่หลากหลาย
การที่เรามีแบรนด์ย่อยออกเป็น 3 แบรนด์นั้นก็ถือเป็นจุดแข็งของเราเลย แต่ถึงจะบอกว่าคนละแบรนด์กัน แต่เราก็ให้ความสำคัญในด้านการบริการและคุณภาพเหมือนกันหมด ลูกค้าของเราจำนวนไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อแบรนด์ของเรา ก็สามารถสบายใจได้ นอกจากนี้ในปี 2015 ที่ผ่านมา ทางเราได้เปิดแบรนด์ย่อยแบรนด์ใหม่อย่าง Somewhere บนเกาะสีชัง ที่ศรีราชา ที่มีวิวธรรมชาติที่สวยงามและสงบในสไตล์บ้านพักตากอากาศสมัยใหม่
การพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าในตอนแรกที่ตั้ง Marumura ขึ้นมา ยุคนั้นไม่มีสื่อที่เป็นออนไลน์เลย แต่หลังจากนั้น 8 ปี จำนวนคนไทยที่ไปประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ก็เลยคิดว่าอย่างน้อยสิ่งที่เราทุ่มเทในการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับญี่ปุ่นก็ไม่สูญเปล่า ในขณะเดียวกันเดี๋ยวนี้ โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊กก็แพร่หลายเป็นอย่างมาก การอัพเดทเรื่องส่วนตัวก็ทำได้ หรือจะบอกเล่าเรื่องราวจากการไปเที่ยวของตัวเองในที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นก็มีเพิ่มขึ้นไม่น้อย ในจำนวนนั้น มีบล็อกเกอร์มืออาชีพที่สร้างรายได้จากการเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย จนทำให้เดี๋ยวนี้ก็มีคนเข้าใจผิดเหมือนกันว่าเราเป็นคู่แข่งกับบล็อกเกอร์เหล่านั้น แต่จริงๆ แล้ว Marumura ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อขายแบรนด์ที่ชื่อ Marumura แต่เราเป็นผู้ที่มุ่งมั่นที่จะแชร์ข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่นให้กับทุกคน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ อยากให้ทุกคนคิดว่าเราคือแพลตฟอร์มที่รวบรวมคนรักญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน ถึงแม้ว่า ผมที่เป็นผู้ก่อตั้งจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ก็หวังว่า Marumura จะเป็นสื่อที่อยู่ต่อไปเรื่อยๆ
แผนการหลังจากนี้
เรามีแผนการที่จะเพิ่มจำนวนโรงแรมอีก 4 แห่ง ภายใน 5 ปีนี้ โดยเน้นให้ความสำคัญไปที่ทำเลที่ตั้ง เนื่องจากการที่บริษัทของเราเป็นเจ้าของที่ดินเยอะ ทำให้สามารถสร้างโรงแรม โดยใช้ต้นทุนที่ถูกกว่าที่อื่นอีกด้วย
ทราบมาว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดบริการโรงแรมแห่งใหม่
Cape Fahn Hotel ที่ตั้งอยู่บนเกาะฟานซึ่งสามารถเรียกได้ว่า เป็นเกาะส่วนตัวของเราที่แยกมาจากเกาะสมุย และด้วยจำนวนห้องทั้งหมดที่มีเพียง 22 ห้องนั้น ทำให้ลูกค้าที่มาพักผ่อน สามารถสัมผัสประสบการณ์พิเศษ บนชายหาดส่วนตัว พร้อมกับความสวยงามของธรรมชาติ ของป่าเขตุร้อนได้พร้อมกัน โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2018ครับ
ในเวลาว่างจะชอบเดินทางไปเที่ยวพักผ่อน ทั้งในและนอกประเทศครับ และผมมักจะถือโอกาสนี้ไปสำรวจสถานที่ต่างๆ ด้วยเช่นกัน สำหรับผมแล้วการเดินทางท่องเที่ยวนี่ถือว่าขาดไม่ได้เลยครับ
02-253-3791
5th Fl. B.L.H.Building., 7/1 Wireless Rd., Lumpini, Pathuman Bangkok
https://capekantaryhotels.com
