สื่อมีเดียอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย
ผู้ก่อตั้งบริษัทมารุมุระ (Marumura)
คุณ ธนธร งามมงคลวงศ์ (บู้)
จากการคาดการณ์จำนวนคนไทยที่ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นในปี 2018 จะสูงถึง 1,000,000 คนในประวัติการณ์ อีกทั้งจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยก็มีมากกว่า 3,000 ร้าน ท่ามกลางกระแสญี่ปุ่นในไทยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เราได้มาสัมภาษณ์แกนนำหลักอย่าง “คุณบู้” ผู้ก่อตั้ง Marumura เว็บไซต์ผู้นำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่นสำหรับชาวไทยที่ใหญ่ที่สุดในไทย
จุดเริ่มต้นของ Marumura
Marumura ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 นับได้เป็นปีที่ 8 แล้ว แต่เดิมเคยทำงานที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นอยู่แล้ว จึงรู้จักญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่มีบริษัทญี่ปุ่นอยู่เยอะ คนไทยจำนวนไม่น้อยต่างก็ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่ตอนนั้น ประเทศญี่ปุ่นยังไม่ได้ยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทย คนไปเที่ยวญี่ปุ่นยังมีไม่มากนัก ดังนั้น คนไทยจะยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่แท้จริงในเรื่องธรรมเนียมหรือประเพณีของญี่ปุ่นเท่าไหร่ จากความรู้สึกง่ายๆ ที่ว่า “ญี่ปุ่นอยู่ใกล้แค่นี้ แต่กลับยังไม่รู้จัก” จึงทำให้เกิดความคิดว่า “เราอยากจะเป็นคนบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นด้วยตัวเอง” ในตอนนั้นเป็นยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด เราจึงเลือกที่จะเล่าเรื่องราวโดยผ่านทางสื่อออนไลน์
ในตอนนี้ Marumura เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจระดับท็อปคลาส
ขอบคุณครับ ยอดการกดเข้าชมเว็บไซต์ ในปัจจุบันมี 18 ล้านครั้งใน 1 ปี จำนวนยูสเซอร์ที่เป็นแฟนตัวยงของเว็ปตอนนี้ขยับขึ้นไปถึง 2 ล้าน 4 แสนคน ถ้าจะให้พูดเจาะจงเข้าไปอีก ก็สามารถแยกได้เป็น ยูสเซอร์เพศหญิงมี 65% แต่ถ้าจะแบ่งตามอายุ ช่วงอายุ 25-34 ปี จะมีมากที่สุดคือ 37% ต่อจากนั้นก็จะเป็น 18-24 ปี (25%) และ 35-44 ปี (22%) ตามลำดับ คอนเทนต์ที่เรานำมาเขียนเป็นบทความหรือคอลัมน์เราจะอัพมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน ตอนแรกๆ เราจะเน้นข่าวที่กำลังเป็นที่สนใจในญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่ช่วงหลังเริ่มมีแฟนๆ เสนอเรื่องที่อยากจะอ่านเข้ามามาก ตอนนี้ก็เหมือนกับว่าเรากำลังสร้างคอนเทนต์ไปพร้อมๆกับผู้อ่าน เพราะแบบนี้เราเลยสามารถนำเสนอบทความที่ช่วยไขข้อข้องใจของคนไทยที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น หรือเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นอย่างละเอียดแบบคนรู้จริง
การจะเพิ่มกระแสความรู้จักก็จะต้องพึ่งสปอนเซอร์
ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ในจำนวนคอนเทนต์ของเราทั้งหมด มีที่เกี่ยวข้องกับสปอนเซอร์ไม่เกิน 5% ที่เป็นแบบนี้ได้เพราะเรามีคอนเซ็ปต์ที่ว่า “นำเสนอเรื่องที่ผู้อ่านต้องการจะอ่าน” เราเลยควบคุมบทความที่เกี่ยวกับโฆษณาเอาไว้ จะมีบ้างที่เรารับข้อเสนอจากองค์กรหรือหน่วยงานราชการของญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้ทำแค่ไปเห็นหรือไปฟังแล้วนำมาเขียนเพียงเท่านั้น แต่เราจะผลิตเนื้อหาบทความให้เป็นไปอย่างที่ผู้อ่านให้ความสนใจ
ทุกวันนี้จำนวนคนไทยที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมีเพิ่มขึ้นทุกวัน
อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าในตอนแรกที่ตั้ง Marumura ขึ้นมา ยุคนั้นไม่มีสื่อที่เป็นออนไลน์เลย แต่หลังจากนั้น 8 ปี จำนวนคนไทยที่ไปประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ก็เลยคิดว่าอย่างน้อยสิ่งที่เราทุ่มเทในการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับญี่ปุ่นก็ไม่สูญเปล่า ในขณะเดียวกันเดี๋ยวนี้ โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊กก็แพร่หลายเป็นอย่างมาก การอัพเดทเรื่องส่วนตัวก็ทำได้ หรือจะบอกเล่าเรื่องราวจากการไปเที่ยวของตัวเองในที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นก็มีเพิ่มขึ้นไม่น้อย ในจำนวนนั้น มีบล็อกเกอร์มืออาชีพที่สร้างรายได้จากการเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย จนทำให้เดี๋ยวนี้ก็มีคนเข้าใจผิดเหมือนกันว่าเราเป็นคู่แข่งกับบล็อกเกอร์เหล่านั้น แต่จริงๆ แล้ว Marumura ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อขายแบรนด์ที่ชื่อ Marumura แต่เราเป็นผู้ที่มุ่งมั่นที่จะแชร์ข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่นให้กับทุกคน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ อยากให้ทุกคนคิดว่าเราคือแพลตฟอร์มที่รวบรวมคนรักญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน ถึงแม้ว่า ผมที่เป็นผู้ก่อตั้งจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ก็หวังว่า Marumura จะเป็นสื่อที่อยู่ต่อไปเรื่อยๆ
ที่ Marumura มีระบบการทำงานอย่างไร
ตอนนี้เรามีนักเขียนประจำอยู่ 20 คน ถ้านับตั้งแต่แรกก็มีมากกว่า 100 คน นักเขียนของ Marumura ไม่ได้คิดแค่ว่า “รับเงินแล้วเขียน” แต่เป็นคนที่รักในญี่ปุ่นและ “อยากจะบอกต่อ” ถึงประสบการณ์หรือข้อมูลที่หามาด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น Marumura จะไม่เรียกนักเขียนว่าเป็นฟรีแลนซ์ แต่เราจะเรียกเขาว่าครอบครัว และแน่นอน นักเขียนของเรานอกจากจะมีฝีมือที่ดีแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือจะต้องมีใจรักในญี่ปุ่น
ตอนนี้เทรนด์ของคนไทยที่ชอบญี่ปุ่นเป็นอย่างไร
นักเขียนของเราส่วนมากจะเป็นนักเขียนที่มีงานประจำของตัวเองอยู่แล้ว คือเป็นนักเขียนระดับมืออาชีพหรือไม่ก็เคยตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาก่อน ทั้งเรื่องที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้ นอกเหนือจากเรื่องธรรมดาทั่วไป เราพยายามจะเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในเชิงลึกให้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ที่นำเสนอเรื่องราวของผู้อยู่ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง รวมถึงนำเสนอด้านมืดของญี่ปุ่น ที่เราเพิ่มประเด็นเบื้องหน้าและเบื้องหลังลงไป เพราะอยากให้คนชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นที่เป็นญี่ปุ่นจริงๆ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ดังนั้นจึงมีเรื่องให้เขียนได้แบบไม่จำกัด การเริ่มเข้าใจเรื่องต่างๆ มากขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมคนของสองประเทศเข้าด้วยกัน ในโอกาสที่ได้มาพบกันในครั้งนี้ก็หวังว่า Marumura ที่นำเสนอเรื่องราวของญี่ปุ่นให้กับคนไทย กับ WiSE ที่นำเสนอเรื่องราวของไทยให้กับญี่ปุ่น จะยิ่งช่วยให้ทั้งสองประเทศได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นไปอีก
ภาพถ่ายกับสตาฟขณะเดินทางไปเก็บข้อมูลที่ญี่ปุ่น
Marumura Co., Ltd.
02-641-6619
608 ซอยเอกชัย 46 ถนนเอกชัย เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
marumura.com
ดำเนินธุรกิจเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยมีที่ผู้เข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย ยอดการเยี่ยมชมเว็ปไซต์ในปี 2017 อยู่ที่ 18 ล้านครั้ง (ยอดจำนวนยูสเซอร์ที่เข้าใช้ประจำจำนวน 2 ล้าน 4 แสนคน)